เวลาเท่าไหร่แล้วน้อ

รูปผมเอง

วิธีดูแลสุขภาพ

วิธีดูแลรักษาสุขภาพร่างกายในรูปแบบต่างๆ

วันอังคารที่ 11 พฤษภาคม พ.ศ. 2553

5 ระดับความเมาเหล้าของมนุษย์

สถาบันด๊อกเตอร์มาร์ตินได้แบ่งระดับ ความเมาเหล้าของมนุษย์ไว้ 5
ระดับด้วยกันคือ:

ระดับที่ 1: SMART(ฉลาด)
- เมื่อคนดื่มเหล้าเข้าไปเมาจนถึงระดับนี้ซึ่งเป็นระดับแรก
จะรอบรู้ทุก สิ่งทุกอย่างในจักรวาล และมักจะชอบเผื่อแผ่ความรู้ให้ทุกๆคนในบาร์
ความ เป็นจริงทุกอย่างในจักรวาลจะถูกนำออกมาเปิดเผยหมด
ไม่ว่าใครจะพูดเรื่อง อะไรคุณจะกลายเป็นผู้เชี่ยวชาญทางด้านนั้นพอดิบพอดี
และคุณจะรู้สึกว่า ทุกๆอย่างที่คนอื่นพูดมาจะเป็นเรื่องผิดไปหมด
ไม่ตรงกับข้อมูลที่คุณมี จึงจะมีการเริ่มตั้งข้อโต้แย้งต่างๆกัน

ระดับที่ 2: GOOD LOOKING(ดูดี)
- คุณจะเริ่มค้นพบว่าคุณมีรูปร่างหน้าตาที่ดูดีที่สุดในละแวกนั้นและทุกๆคน เริ่มที่จะ
หันมาสนใจคุณเพราะคุณดูดี แน่นอนคุณสามารถเดินไปคุยกับทุกๆคนได้ทุกๆ
เรื่องด้วยเพราะคุณทั้งดูดี และฉลาด

ระดับที่ 3: RICH(รวย)
- เมื่อเมาถึงระดับนี้คุณจะค้นพบว่าตัวเองนั้นมีเงินมหาศาล
คุณสามารถที่ จะเลี้ยงเหล้าทุกคนในบาร์ได้ เพราะคุณมีเงินมหาศาล
และถ้าใครพูดอะไรผิด หูคุณสามารถที่จะท้าพนันได้ทุกเรื่องเพราะคุณยังฉลาดกว่าด้วย
นอกจากนี้ คุณยังดูดีมากๆด้วย

ระดับที่ 4: BULLET PROOF(คงกระพัน)
- เมื่อเมาถึงระดับนี้ตัวคุณจะมีวิชาคงกระพันแก่กล้ากว่าคนทั่วไปและ
พร้อม ที่จะเข้าห้ำหั่นกับทุกๆคนได้ เพราะไม่มีใครจะทำอันตรายคุณได้
คุณ สามารถท้าพนันตีต่อยกับเพื่อนคุณก็ได้ และคุณก็ไม่กลัวแพ้ด้วย
เพราะว่า คุณทั้งฉลาด, ทั้งดูดี, ทั้งรวยและต่อสู้เก่งระดับนักมวยอาชีพ

ระดับ ที่ 5: INVISIBLE(หายตัว)
- ระดับความเมาสุดยอด คุณต้องดื่มมากจึงจะเมาถึงระดับนี้ได้ด้วย
ความเมาที่ระดับนี้คุณสามารถ ทำอะไรก็ได้ เพราะไม่มีใครเห็นคุณ, จะไปเต้นรำบนโต๊ะ,
แหกปากร้อง เพลงกลางถนน, ไล่ตีหัวคนอื่นก็ทำได้เพราะไม่มีใครเห็นคุณ

ในชีวิตประจำวัน เราอาจพบเห็นคนเมาเหล้าอยู่บ่อยๆ โดยเฉพาะเมื่อมีการสังสรรค์หรือมีงานเลี้ยงเนื่องในโอกาสต่างๆ คนเมาเหล้ามักจะมีกลิ่นเหล้าเหม็น คลุ้ง เดินโซเซ คดไปคดมาไม่ตรงทาง พูดเสียงอ้อแอ้ไม่ชัดเจน บางครั้งก็พูด จาไม่รู้เรื่อง คนเมาเหล้ามักมีอาการคลื่น ไส้และอาเจียนออกมา เป็นที่รังเกียจของผู้พบเห็น คนเมาเหล้าก็เพราะได้ดื่มเหล้า หรือเครื่องดื่มที่มีสารแอลกอฮอล์เข้าไป เครื่องดื่มที่มีสารแอลกอฮอล์นี้มีหลายประเภท เช่น เบียร์ เหล้าองุ่นหรือไวน์ เหล้าหรือสุรา วิสกี้ บรั่นดี ยิน และรัม เป็นต้น เครื่องดื่มแต่ละประเภทมีแอลกอฮอล์ในปริมาณมากน้อยต่างกัน ยิ่งมีแอลกอฮอล์มาก ก็จะยิ่งมีพิษมีภัยมากขึ้น แอลกอฮอล์เป็นสารธรรมชาติที่ได้จากการหมักน้ำตาลจากข้าว องุ่น ข้าวโพด ฯลฯ กับยีสต์ เกิดเป็นสารที่เรียกว่า เอทานอล (ethanol) ซึ่งเป็นองค์-ประกอบหลักใน เครื่องดื่มประเภทสุรา แอลกอฮอล์เป็นสารที่มีคุณสมบัติทำให้เกิดการเสพติดได้ โดยไปกระตุ้นสมองในส่วนที่เกี่ยวข้อง กับความอยาก ทำให้ผู้เสพเกิด ความพอใจ และมีความต้องการใช้ซ้ำอีก หักห้ามใจไม่ได้ จนนำไปสู่การติดในที่สุด การดื่มเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์เข้าไปมาก มีผลเสียต่อสุขภาพอย่างมาก เพราะแอลกอฮอล์กระจายในร่างกายได้อย่างรวดเร็ว ทำให้สมองและการทำงานของระบบประสาทและกล้ามเนื้อต่างๆ บกพร่อง คนเมาเหล้าจะมองเห็นภาพไม่ชัดเจน เห็นภาพซ้อน การประสานงานระหว่างสายตา สมอง และการกระทำไม่สัมพันธ์กัน ดังนั้น การขับขี่ยานพาหนะในขณะที่มีอาการเมาจึงอาจเกิดอุบัติเหตุได้ง่าย นอกจากนั้น ยังอาจเกิดอาการใจสั่น จำอะไรไม่ได้ และรู้สึกคลื่นไส้ อาเจียน หากดื่มบ่อยๆจะเกิดการเสพติด เมื่อไม่ได้ดื่มจะปวดศีรษะ หงุดหงิด กระวนกระวาย นอนไม่หลับ ตาสู้แสงไม่ได้ และหากเป็นมากอาจเกิดอาการประสาทหลอน หูแว่ว หวาดระแวง กลัวคนจะมาทำร้าย บางครั้งอาจเกิดอาการกระตุกทั้งตัว ชักเกร็ง สับสน จำวัน เวลา สถานที่ และบุคคลไม่ได้ ผู้ที่ดื่มนานๆอาจมีอาการตัวเหลือง ท้องบวม และบวมตามแขนขาร่วมด้วย และอาจกลายเป็นโรคตับแข็งในที่สุด ผู้ป่วยที่เป็นโรคนี้จะมีอาการเบื่ออาหาร ผอม อ่อนเพลีย เลือดออกง่าย เส้นเลือดโป่งพอง และเกิดอาการไตวาย คือ ไตไม่สามารถกำจัดของเสียออกจากร่างกายได้ จนอาจเสียชีวิต นอกจากนั้น ฤทธิ์ของแอลกอฮอล์ยังอาจทำให้เป็นโรคตับอักเสบ หลอดเลือดในกระเพาะอาหารอักเสบเป็นแผล สมองเสื่อม ความจำบกพร่อง ระบบภูมิต้านทานโรคต่ำลง ร่างกายติดเชื้อได้ง่าย และยังเป็นสาเหตุของโรคความดันโลหิตสูง โรคเลือดในสมองและหัวใจอุดตัน และโรคมะเร็ง โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ถ้าหญิงที่ตั้งครรภ์ติดแอลกอฮอล์ อาจมีผลทำให้ทารกเสียชีวิตในครรภ์ และเกิดการแท้งได้ หรือทำให้เด็กที่เกิดมามีความผิดปกติทาง ร่างกายและสติปัญญาอีกด้วย นอกเหนือจากผลเสียที่มีต่อสุขภาพแล้ว ผู้ดื่มแอลกอฮอล์ยังได้รับผลเสียทาง อ้อมอีกมาก เช่น หากขับรถในขณะมึนเมา อาจประสบอุบัติเหตุร้ายแรงได้ หากดื่มนานๆ จะมีความจำบกพร่อง ทำให้ทำงานผิดพลาด ในขณะมึนเมาจะขาดสติ และขาดการควบคุมตนเอง ทำให้เสียบุคลิกภาพ และอาจเกิดการทะเลาะวิวาทขึ้น นอกจากนั้น การซื้อเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ทำให้เสียค่าใช้จ่ายมาก อาจทำให้ครอบครัวเกิดปัญหาทางการเงินได้ ในเมื่อเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์มีพิษภัยดังกล่าวแล้ว เราคงสงสัยว่า เหตุใดจึงยังคงมีคนดื่มกันอีก สาเหตุสำคัญมีหลายประการ คือ
๑. คนมีปัญหาที่ทำให้เกิดความเครียด ในชีวิตประจำวันคนเรามักประสบปัญหาต่างๆ ในการดำรงชีวิต เช่น ปัญหาในการเรียน ปัญหาความขัดแย้ง กับเพื่อน ปัญหาการเงิน ปัญหาความไม่เข้าใจกันในครอบครัว และปัญหาการทำงาน เมื่อไม่สามารถเผชิญ กับปัญหาและแก้ปัญหาได้ จึงหันมาดื่มสุราเพื่อลดหรือคลายความเครียด เพราะเมื่อดื่มเข้าไป ในระยะแรกจะรู้สึกผ่อนคลาย คึกคัก ลืมปัญหาไปได้ชั่วขณะหนึ่ง จึงเป็นเหตุผลที่ผู้ดื่มใช้อ้างเพื่อดื่มต่อไป ในที่สุดจะทำให้เกิดอาการติดแอลกอฮอล์ และได้รับผลเสียตามมาอย่างมาก
๒. ความอยากลองสิ่งใหม่ๆ เยาวชนจำนวนมากเห็นว่า การดื่มเครื่องดื่ม ที่มีแอลกอฮอล์เป็นสิ่งใหม่ที่เป็นเรื่องท้าทาย ตื่นเต้น น่าสนุก ทำให้อยากลองดื่ม เมื่อดื่มแล้วก็อาจติดใจ และอยากดื่มต่อไป จนเกิดอาการติดในที่สุด และผลสุดท้ายก็จะได้รับพิษภัยต่างๆ ตามมา
๓. กลุ่มเพื่อนชักชวน และไม่กล้าปฏิเสธ เนื่องจากมีความเข้าใจว่า หากไม่ร่วมดื่มจะถือว่าไม่รักพวกพ้อง และคิดว่า ตนสามารถควบคุมการดื่มได้ สามารถดื่มโดยไม่ติด ทำให้เกิดความชะล่าใจ และดื่มต่อไป จนกระทั่งติดในที่สุด
๔. ความเชื่อและวัฒนธรรมของสังคม ความเชื่อและค่านิยมของคนในสังคมที่เห็นว่า การดื่มเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์เป็นเรื่องปกติธรรมดา ช่วยให้เกิดความสนุกสนาน เพลิดเพลิน หรือใช้รักษาโรคได้ และไม่คิดว่าจะเป็นอันตรายต่อตนเอง
๕. อิทธิพลของการโฆษณาชวนเชื่อของสื่อต่างๆ สื่อมวลชนจำนวนมาก เช่น โทรทัศน์ วิทยุ ภาพยนตร์ ละคร เพลง และหนังสือ พยายามชักชวนให้ผู้คนมีค่านิยมในการดื่ม เครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ โดยโฆษณาหรือสร้างภาพว่า การดื่มเป็นเรื่องของผู้มีรสนิยมสูง ทำให้คนหลงเชื่อ เมื่อเผชิญปัญหา ผู้ที่ฉลาดควรหาทาง ผ่อน-คลายความเครียดที่เหมาะสม ไม่เป็นโทษต่อตนเองและผู้อื่น เช่น พูดคุยระบายความเครียดกับผู้ที่ไว้วางใจ หรือทำกิจกรรม เช่น เล่นกีฬา เล่นดนตรี และรู้จักคิดวิเคราะห์ปัญหา เพื่อหาสาเหตุและวิธีแก้ไข โดยการปรึกษาหรือขอความช่วยเหลือจากผู้อื่นตามความเหมาะสม ไม่หลงเชื่อต่อคำชักชวนหรือคำโฆษณาต่างๆ โดยง่าย รู้จักคิดและ วิเคราะห์แยกแยะว่าอะไรควรและ อะไรไม่ควร โดยพิจารณาถึงผลที่จะตามมาทั้งระยะสั้นและระยะยาว และเลือกสิ่งที่จะเป็นประโยชน์ต่อคุณภาพชีวิตของตนเองในระยะยาว ไม่หลงเพลิดเพลินกับความสุขชั่วขณะ แต่ต้องรับผลเสียในระยะยาว ผู้ที่คิดและทำได้เช่นนี้ จะสามารถรักษาตนให้ปลอดภัยจากพิษภัยของแอลกอฮอล์ได้ ส่วนผู้ที่ติดแอลกอฮอล์ไปแล้ว ก็ควรปรึกษาแพทย์ และเข้ารับการบำบัดรักษา เพื่อจะได้มีชีวิตที่มีคุณค่า ไม่ตกเป็นทาสของแอลกอฮอล์ต่อไป

สารอาหารที่สำคัญต่อร่างกาย

สารอาหารที่กำลังฮิตมากที่สุดในบ้านเราขณะนี้ ต้องนึกถึง สารอาหาร Q10 เพราะหลายคนรู้ว่าสารอาหารตัวนี้มีช่วยเสริมสร้างผิวพรรณให้เปล่งปลั่ง ชะลอความแก่ แต่จริงๆ แล้ว Q10 มีประโยชน์มากกว่าที่หลายๆ คนคิด...
เมื่อนึกสารอาหารที่กำลังฮิตมากที่สุดในบ้านเราขณะนี้ คุณคิดถึงสารอาหารตัวใด ?
” Q 10” น่าจะป็นคำตอบที่คุณกำลังนึกถึง เพราะว่ามีการโฆษณาทางโทรศัพท์บ่อยที่สุด และถูกพูดถึงในแง่ของการทำให้อายุยืน ชะลอความแก่ เสริมความสาว และช่วยผิวพรรณเปล่งปลั่ง
ทั้งๆที่จริงๆแล้ว โคเอนไซม์ คิวเท็น Q10 สามารถป้องกันสมองเสื่อมหรืออัลไซเมอร์ และป้องกันโรคหัวใจล้มเหลว รวมถึงโรคจากความชราได้

แพทย์รู้จักการใช้ คิวเท็น ป้องกันโรคหัวใจมานานหลายปีแล้ว ส่วนแพททย์ในอีกหลายประเทศทั่วโลกใช้ คิวเท็น ในการรักษาโรคชรา โรคเรื้อรัง โรคหัวใจ ประมาณกันว่าแพทย์ได้สั่ง คิวเท็น ให้แก่ผู้ป่วยโรคหัวใจมามากกว่า 40 ล้านคนทั่วโลก เพราะมีการศึกษาชี้ชัดว่า โคเอนไซม์คิวเท็น จะช่วยยับยั้งไม่ให้คอเลสเตอรอลจับตัวเป็นก้อนแข็งในหลอดเลือด จึงช่วยลดปัญหาหลอดเลือดแข็งและการอุดตันของหลอดเลือดแดงที่ไปเลี้ยงหัวใจ ได้


โคเอ็นไซม์ คิวเท็น
( Coenzyme Q10 ) เป็นวิตามินที่ละลายในไขมัน ทำหน้าที่ป้องกันเซลล์ไม่ให้ทำปฎิกิริยากับออกซิเจน ช่วยให้ร่างกายนำออกซิเจนมาใช้งานได้มากขึ้น และหน้าที่สำคัญมาก คือ เป็นตัวจุดประกายให้ไมโตรครอนเดียในเซลล์ สามารถสร้างพลังงานให้แก่ร่างกาย ดังนั้น ถ้าร่างกายเราขาด วิตามิน คิวเท็น จะทำให้ร่างกายขาดพลังงงาน ไปอย่างมหาศาล วิตามินคิวเท็นจึงจำเป็นมากสำหรับอวัยวะที่ทำงานหนัก และต้องใช้พลังงานอย่างสูงมากเป็นพิเศษ เช่น หัวใจ และตับ ไต

อาหารที่มี โคเอ็นไซม์ คิวเท็น
ได้แก่ ปลาทะเลน้ำลึก เช่น ปลาซาร์ดีน ปลาแมคเคอเรล ปลาทูน่า เครื่องในสัตว์ เฉพาะส่วนหัวใจและตับ ส่วนในพืชจะพบได้บ้างใน ถั่วลิสง และน้ำมันถั่วเหลือง ถึงแม้ว่าร่างกายเราสามารถสร้าง โคเอ็นไซม์ Q10 ขึ้นเองได้ แต่จะสร้างได้น้อยลงเรื่อยๆตามอายุที่เพิ่มขึ้น และเมื่อถึงวัยกลางคนจึงมักจะขาดโคเอ็นไซม์ Q10

รู้อย่างนี้เล้ว เราคงต้องทำความเข้าใจใหม่ สำหรับ วิตามิน คิวเท็น ที่ไม่เพียงจะทำให้ผิวพรรณเต่งตึงเพียงอย่างเดียวเท่านั้น แต่ยังมีประโยชน์อันมากมายต่อร่างกายของเราอีกด้วย